DMP Factory 500 ประกอบด้วยโมดูลที่มีฟังก์ชันเฉพาะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยการปรับการใช้งานให้เหมาะสม แต่ละโมดูลในโซลูชันโรงงานนี้ถูกรวมเข้ากับ Removable Print Module (RPM) ที่สามารถปิดผนึกสุญญากาศได้เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการพิมพ์ที่ควบคุมได้ และออกแบบมาเพื่อเคลื่อนย้ายระหว่างเครื่องพิมพ์และโมดูลผงวัสดุเพื่อให้การผลิตดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
โมดูลเครื่องพิมพ์ (PTM) ถูกออกแบบมาเพื่อการพิมพ์ชิ้นส่วนที่ต่อเนื่องตลอด 24/7 ส่วน Depowdering Module (DPM) และ Powder Recycling Module (PRM) ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดผงวัสดุส่วนเกินบนแพลตฟอร์มการสร้างชิ้นงานอย่างมีประสิทธิภาพ และรีไซเคิลวัสดุผงที่ยังไม่ได้ใช้โดยอัตโนมัติเพื่อเตรียม RPM สำหรับการสร้างชิ้นงานครั้งต่อไป สถานี DMP Build Changeover Station (BCS) สามารถใช้เพื่อเปลี่ยนโมดูลการพิมพ์จากการสร้างชิ้นงานหนึ่งไปสู่อีกชิ้นหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และสามารถรองรับเครื่องพิมพ์ DMP Factory สองเครื่องที่กำลังใช้วัสดุที่แตกต่างกัน
คุณสามารถกำหนดการตั้งค่าโรงงานของคุณด้วยจำนวนและประเภทโมดูลที่เหมาะสมกับความต้องการในการผลิตของคุณ คลิกที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อชมวิดีโอสอนการใช้งาน DMP Factory 500 และโมดูลต่างๆ ของมัน
การตั้งค่าการทำงานของเลเซอร์อย่างชาญฉลาดและเทคโนโลยีการสแกนที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ 3DXpert ของ DMP Factory 500 ช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนขนาดใหญ่ที่ไม่มีรอยต่อได้เท่ากับขนาดเต็มของปริมาตรการสร้าง (500 มม. x 500 มม. x 500 มม.) ซึ่งทำให้ได้ชิ้นส่วนโลหะ 3 มิติที่มีคุณภาพพื้นผิวสูงและมีคุณสมบัติวัสดุที่ยอดเยี่ยม
เมื่อพูดถึงการผลิต คุณภาพชิ้นส่วนที่ทำซ้ำได้เป็นสิ่งสำคัญ โมดูลเครื่องพิมพ์ DMP Factory 500 มีห้องสุญญากาศเพื่อรักษาระดับ O2 ให้น้อยที่สุด ซึ่งช่วยให้การพิมพ์ชิ้นส่วนโลหะ 3 มิติคุณภาพสูง ผงวัสดุจะไม่เสื่อมสภาพเพราะถูกเก็บไว้ในสภาวะเฉื่อยตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการพิมพ์ การกำจัดผงวัสดุ การรีไซเคิล หรือการขนย้ายระหว่างโมดูลต่างๆ
ด้วยปริมาตรการสร้างขนาดใหญ่ (500 x 500 x 500 มม.) และความสามารถในการพิมพ์ที่รวดเร็วด้วยเลเซอร์หลายตัว DMP Factory 500 จึงมอบประสิทธิภาพสูงในการผลิตแบบเติมเนื้อโลหะ ด้วยการออกแบบแบบโมดูลาร์ การขยายการผลิตสามารถทำได้ง่ายเพียงติดตั้งเครื่องพิมพ์โลหะและโมดูลผงเพิ่มเติม
การออกแบบโมดูลาร์ของ DMP Factory 500 ช่วยให้การทำงานต่อเนื่องในทุกขั้นตอนการพิมพ์โลหะและการจัดการผงวัสดุ ซึ่งช่วยเพิ่มเวลาทำงาน การผลิต และคุณค่าทางการดำเนินงาน ความสามารถในการเลือกจำนวนและประเภทโมดูลที่เหมาะสมกับกระบวนการผลิตของคุณช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลงทุน ในขณะเดียวกันก็ลดขั้นตอนการทำงานแบบแมนนวล ซึ่งส่งผลให้ลดต้นทุนการเป็นเจ้าของและการดำเนินงานลง
